ความหวังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการไล่ล่าเชลซี ที่ตอนบนสุดของตารางพรีเมียร์ชิพต้องพบกับความผิดหวังอย่างแรงและอาจจะถึงจุดจบเสียแล้ว หลังจากพวกเขาบุกไปแพ้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ที่สนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เมื่อวันเสาร์
ประตูจากเทรเวอร์ ซินแคลร์, ดาริอุส วาสเซลล์ และร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้า ได้รับชัยชนะและ 3 คะแนนเต็มในเกมดาร์บี้ แมตช์ แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ครั้งที่ 134 ในลีก โดยปิศาจแดง ได้ประตูจากรุด ฟาน นิวเตลรอย
และยังมีข่าวร้ายเพิ่มขึ้นมาอีกสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ได้รับใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไปในช่วงกลางครึ่งเวลาหลัง เมื่อเขาพุ่งเข้าไปสกัดแอนดี้ โคล อดีตนักเตะของปิศาจแดง
ดาร์บี้ แมตช์ มักจะเป็นเกมที่คาดเดาไม่ได้เสมอ ในขณะที่นักวิจารณ์โดยส่วนมากจะคิดว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะคว้าชัยชนะได้ในนัดนี้ และหลายคนก็คิดว่าน่าจะจบลงด้วยผลเสมอกัน อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พลิกจากฟอร์มการเล่นในบ้านที่ย่ำแย่สามารถคว้าชัยชนะที่สำคัญเอาไว้ได้ในเกมนัดหนึ่งที่น่าสนใจมาก
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำการเปลี่ยนแปลงทีม 3 ตำแหน่งจากชุดที่เสมอกับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส 1-1 ในเกมคาร์ลิ่ง คัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก ที่สนามอีวูด พาร์ค เมื่อวันพุธที่ผ่านมา จอห์น โอเชีย ได้กลับคืนสู่ทีมในตำแหน่งกองกลางแทนที่ของอลัน สมิธ ในขณะที่รุด ฟาน นิสเตลรอย ก็ได้กลับมาเป็นตัวจริงแทนที่ของหลุยส์ ซาฮา ตำแหน่งสุดท้ายที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นของปาทริซ เอวร่า นักเตะหน้าใหม่ที่ย้ายมาจากโมนาโก ได้ลงประเดิมสนามนัดแรกในตำแหน่งแบ็คซ้าย ทำให้ในรายชื่อผู้เล่นตัวจริงไม่มีชื่อของเวส บราวน์ ซึ่งได้เป็นตัวสำรองในนัดนี้รวมทั้งสมิธ และซาฮา
สจ๊วร์ต เพียร์ซ ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็มีนักเตะลงประเดิมสนามเป็นนัดแรกในรายชื่อตัวจริงเช่นกัน อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกชาวสเปนซึ่งย้ายมาจากเอสปันญ่อล ได้ลงเล่นในศึกดาร์บี้ แมตช์ แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ครั้งที่ 134 ในลีก ในขณะที่แอนดี้ โคล อดีตกองหน้าของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับทีมเรือใบสีฟ้า
เกมนัดนี้เป็นการเยือนสนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ เป็นครั้งที่ 3 ของปิศาจแดง หลังจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ย้ายข้ามเมืองออกจากสนามเมน โร้ด ในปี 2003 ทีมเรือใบสีฟ้า ชนะในนัดแรก 4-1 ในขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะในนัดต่อมา 2-0 และทั้งคู่เสมอกัน 1-1 ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในนัดแรกที่พบกันของฤดูกาลนี้ โดยโจอี้ บาร์ตัน ทำประตูตีเสมอหลังจากรุด ฟาน นิสเตลรอย ทำประตูแรกของเกม
ก่อนเกมมีการกำหนดเอาไว้ว่ามาร์ค ฮัลซี่ย์ จะเป็นผู้ตัดสินในนัดนี้ แต่เมื่อเข้าสู่เกมกลับเป็นสตีฟ เบนเนตต์ ที่ได้ทำหน้าที่ตัดสินแทน เนื่องจากมีรายงานว่าฮัลซี่ย์ ได้รับบาดเจ็บ
มีเสียงอึกทึกแสดงความเร้าใจตั้งแต่เริ่มเกมระหว่างคู่ปรับร่วมเมืองแมนเชสเตอร์ โดยปิศาจแดง เริ่มต้นเกมเขี่ยลูกบุกเข้าใส่อัฒจันทร์ฝั่งแอชตัน นิว โร้ด เอนด์ ซึ่งแออัดไปด้วยแฟนบอลทีมเยือน
ความพยายามทำประตูครั้งแรกของเกมเกิดขึ้นในนาทีที่ 8 เมื่อโคล หนีการประกบของมิเกล ซิลแวสตร์ และจอห์น โอเชีย หลุดมาได้ยิงลูกเรียด แต่เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ รับไว้ได้สบาย
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โต้ตอบด้วยการบุกซึ่งจบลงที่เวย์น รูนี่ย์ จ่ายบอลไปที่ว่างให้กับฟาน นิสเตลรอย แต่พลาดโอกาสยิงไป
แฟนบอลเจ้าถิ่นโห่ร้องแสดงความสะใจเมื่อคริสเตียโน่ โรนัลโด้ พยายามตอกส้นให้กับเอวร่า นักเตะหน้าใหม่แต่ไม่สำเร็จ แต่แฟนบอลกลุ่มเดียวกันนั้นก็ต้องกลั้นหายใจในอีกไม่กี่นาทีถัดมาเมื่อลูกเปิดของไรอัน กิ๊กส์ สร้างอันตรายให้กับทีมเรือใบสีฟ้า ทั้งรูนี่ย์ และฟาน นิสเตลรอย รออยู่ในกรอบเขตโทษ แม้ว่ารูนี่ย์ จะสัมผัสบอลได้แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็รอดจากการเสียประตูมาได้
ไม่มีทีมใดสามารถครองเกมเอาไว้ได้ แต่ทั้งคู่ก็ต่อสู้กันได้อย่างสูสี ซึ่งไม่ค่อยจะได้เห็นบ่อยนักในช่วงหลัง
มาถึงในนาทีที่ 32 สนามซิตี้ ออฟ แมนเชสเตอร์ ก็แทบจะถล่มเมื่อแฟนบอลเจ้าบ้านส่งเสียงเฮลั่นฉลองประตูแรกของเกม แผงกองหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถสกัดลูกเปิดจากฝั่งขวาของซุน จีไห่ ได้และเมื่อบอลมาถึงสตีเฟ่น ไอร์แลนด์ เขาก็ไม่รอช้าที่จะไหลบอลให้กับเทรเวอร์ ซินแคลร์ ซึ่งหมุนตัวก่อนที่จะยิงเต็มเท้าผ่านมือฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำไปก่อน 1-0
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกือบจะทำประตูตีเสมอได้ในอีก 4 นาทีต่อมา เมื่อโรนัลโด้ ไหลบอลให้กับรูนี่ย์ ได้หลุดเดี่ยว แต่เดวิด เจมส์ ผู้รักษาประตูของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาปิดมุมทำให้บล็อกลูกยิงเอาไว้ได้ด้วยขา
อีก 3 นาทีต่อมา ปิศาจแดง ก็ต้องมีปัญหาหนักขึ้นไปอีกเมื่อดาริอุส วาสเซลล์ ทำประตูให้เจ้าถิ่นนำห่างออกไป ซินแคลร์ มีส่วนเกี่ยวข้องอีกครั้งโดยโหม่งบอลขึ้นหน้าไปให้กับวาสเซลล์ ซึ่งวิ่งหนีการประกบของซิลแวสตร์ ก่อนที่จะยิงสวนตัวฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าไปตุงตาข่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำออกไปเป็น 2-0 ในนาทีที่ 39
การตกเป็นฝ่ายไล่ตามถึง 2 ประตูในช่วงพักครึ่งของศึกดาร์บี้ แมตช์ แห่งเมืองแมนเชสเตอร์ เป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าอภิรมย์เลย แต่เกมแบบนี้เคยพลิกผันมาก่อน และเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจว่าควรมีการสับเปลี่ยนเล็กน้อยเพื่อให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พลิกกลับมาได้ เอวร่า นักเตะหน้าใหม่ถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่งให้อลัน สมิธ ลงเล่นแทนในตำแหน่งกองกลาง และโอเชีย ถูกถอยไปเป็นแบ็คซ้าย
แสงแดดสาดส่องอย่างเจิดจ้าในเมืองแมนเชสเตอร์เมื่อเริ่มต้นครึ่งเวลาหลัง แต่เป็นทีมเรือใบสีฟ้า ที่ได้สนุกสนานมากกว่า เมฆหมอกจาก 2 ประตูในครึ่งแรกยังคงบดบังอยู่เหนือทีมปิศาจแดง อย่างมิดชิด
รูนี่ย์ เกือบจะทำประตูตีไข่แตกให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สำเร็จในช่วงครบ 1 ชั่วโมงพอดีด้วยลูกยิงเรียดซึ่งดูเหมือนเจมส์ จะหมดสิทธิ์ป้องกัน ผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษพุ่งสุดตัว แต่บอลหลุดออกข้างเสาฝั่งขวาไปเพียงนิดเดียว
ปัญหาของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิ่งย่ำแย่หนักลงไปอีกในนาทีที่ 66 เมื่อโรนัลโด้ ถูกไล่ออกหลังจากหงายปุ่มสตั๊ดพุ่งเข้าไปใส่โคล อดีตนักเตะของปิศาจแดง เหตุการณ์ดังกล่าวสมควรจะเป็นใบแดงหรือไม่ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่การถูกไล่ออกไม่ได้ช่วยอะไรเลยเมื่อแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงตามหลังอยู่ถึง 2 ประตู
หลุยส์ ซาฮา ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ เมื่อปิศาจแดง ต้องการเพิ่มกองหน้าในการทำประตูในช่วง 20 นาทีสุดท้ายของเกม
ความหวังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลดลงไปทุกนาที แต่แล้วในนาทีที่ 76 พวกเขาก็มีเริ่มความหวังขึ้นมา กิ๊กส์ โยนบอลไปให้กับฟาน นิสเตลรอย ซึ่งถูกซุน จีไห่ ไล่ตามประกบติดแบบหายใจรดต้นคอ แต่ดาวยิงผู้ไม่ยอมแพ้ก็ยังครองบอลเอาไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่จะหมุนตัวยิงลูกพุ่งเรียดลอดขาซุน จีไห่ เบียดเสาแรกเข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2
เกมในช่วงท้ายเริ่มตึงเครียดมากขึ้น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินเกมรุกพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อทำประตูตีเสมอให้ได้ ในขณะที่ทีมเรือใบสีฟ้า ก็โต้กลับในทุกจังหวะเพื่อทำประตูหนีออกไป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เดินเกมรุกบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเวลาผ่านไป แต่ประตูในช่วงท้ายเกมไม่ได้เป็นของปิศาจแดง กลับกลายเป็นร็อบบี้ ฟาวเลอร์ ตัวสำรองของทีมเรือใบสีฟ้า ที่มาทำประตูได้ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ วาสเซลล์ จ่ายบอลให้ฟาวเลอร์ ได้ยิงจ่อๆ ผ่านมือฟาน เดอร์ ซาร์ เข้าประตูไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำห่างอีกครั้งเป็น 3-1
หมดหนทางที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะไล่คืนได้ทัน แฟนบอลเจ้าถิ่นเริ่มต้นส่งเสียงฉลองกันอย่างรื่นเริง หมดเวลาการแข่งขัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้ 3-1 ในศึกดาร์บี้ แมตช์ ที่น่าผิดหวังสำหรับปิศาจแดง (บรรยายเกมโดย DaKinG)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เดวิด เจมส์ 1 ( น. 77)
ซิลแวง ดิสแตง 5
ริชาร์ด ดันน์ 22
ซุน จีไห่ 17
สตีเฟ่น จอร์แดน 41
โจอี้ บาร์ตัน 8
สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ 38
อัลเบิร์ต ไรร่า 19
เทรเวอร์ ซินแคลร์ 28 ( น. 32)
แอนดี้ โคล 9
ดาริอุส วาสเซลล์ 11 ( น. 39)
สำรอง
เนดัม โอนัวฮา 16 น. 69 ริชาร์ด ดันน์ 22
ลี ครอฟต์ 40
กิซิโต้ มูแซมป้า 14 น. 77 อัลเบิร์ต ไรร่า 19
ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ 7 ( น. 90)( น. 90) น. 77 แอนดี้ โคล 9
แอนโตเน่ ซิเบียร์สกี้ 10
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 19
ปาทริซ เอวร่า 3
ริโอ เฟอร์ดินานด์ 5
แกรี่ เนวิลล์ 2
มิเกล ซิลแวสตร์ 27
ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
ไรอัน กิ๊กส์ 11
จอห์น โอเชีย 22
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 7 ( น. 66)
เวย์น รูนี่ย์ 8 ( น. 45)
รุด ฟาน นิสเตลรอย 10 ( น. 76)
สำรอง
ทิม โฮเวิร์ด 1
เวส บราวน์ 6
คีแรน ริชาร์ดสัน 23 น. 86 จอห์น โอเชีย 22
อลัน สมิธ 14 น. 45 ปาทริซ เอวร่า 3
หลุยส์ ซาฮา 9 น. 71 ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 24
สถิติของเกม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยิงประตู 3, ลูกยิงตรงกรอบ 7, ลูกยิงหลุดกรอบ 4, ลูกยิงโดนบล็อค 1, เตะมุม 3, ฟาวล์ 21, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 2, การครองบอล 47%
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยิงประตู 1, ลูกยิงตรงกรอบ 4, ลูกยิงหลุดกรอบ 9, เตะมุม 3, ฟาวล์ 20, ล้ำหน้า 2, ใบเหลือง 1, ใบแดง 1, การครองบอล 53%
คะแนนความสามารถ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดวิด เจมส์ 7, ซุน จีไห่ 6, ริชาร์ด ดันน์ 7, ซิลแวง ดิสแตง 7, สตีเฟ่น จอร์แดน 7, เทรเวอร์ ซินแคลร์ 9, โจอี้ บาร์ตัน 7, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์ 5, อัลเบิร์ต ไรร่า 7, แอนดี้ โคล 7, ดาริอุส วาสเซลล์ 8, เนดัม โอนัวฮา (สำรอง) 6, กิซิโต้ มูแซมป้า (สำรอง) 6, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (สำรอง) 6
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ 6, แกรี่ เนวิลล์ 5, ริโอ เฟอร์ดินานด์ 7, มิเกล ซิลแวสตร์ 5, ปาทริซ เอวร่า 5, คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 5, ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ 5, จอห์น โอเชีย 6, ไรอัน กิ๊กส์ 6, เวย์น รูนี่ย์ 8, รุด ฟาน นิสเตลรอย 6, อลัน สมิธ (สำรอง) 6, คีแรน ริชาร์ดสัน (สำรอง) 5, หลุยส์ ซาฮา (สำรอง) 5
Por